พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และอาคารที่ทำการศาลจังหวัดนครปฐม และทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2563

        วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563   เวลา  17.30  น.   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และอาคารที่ทำการศาลจังหวัดนครปฐม ณ อาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และอาคารที่ทำการศาลจังหวัดนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
        ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดภาคกลางตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม  สำหรับศาลจังหวัดนครปฐม มีเขตอำนาจการพิจารณาคดีในท้องที่จังหวัดนครปฐม รวม 7 อำเภอ คือ อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม อำเภอนครชัยศรี อำเภอบางเลน อำเภอพุทธมณฑล อำเภอเมืองนครปฐม และอำเภอสามพราน  โดยมุ่งเน้นการเป็นหน่วยงานที่อำนวยความยุติธรรม เพื่อให้สังคมไทยมีความสงบสุข  เป็นธรรม และเสมอภาค  สืบสานตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชประสงค์ให้ประเทศชาติมีความมั่นคง และประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความสุขอย่างยั่งยืน

        ภายหลังจากทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และอาคารที่ทำการศาลจังหวัดนครปฐม แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลากลางจังหวัดนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมาจากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครปฐม อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุและทุพลลภาพจากอำเภอเมืองนครปฐม  และจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง อาทิ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพมหานคร โดยทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง โบกธงชาติ  ธงพระปรมาภิไธย วปร. และธงพระนามาภิไธย สท. รวมถึงเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมฉายาลักษณ์ที่ฉายกับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี มาชูขึ้นเหนือศีรษะ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกร 

        เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินผ่านราษฎรต่างพร้อมใจเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ”และ“เราคนไทย รักในหลวง” ถวายพระพรอย่างกึกก้อง ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงแย้มพระสรวล มีพระราชปฏิสันถารกับราษฎร ผู้สูงอายุ ผู้ทุพลลภาพ รวมถึงเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด  พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ราษฎรร่วมฉายพระรูปโดยไม่ทรงถือพระองค์ แม้อากาศจะร้อนและอบอ้าว กับพระราชทานลายพระราชหัตถ์ และทรงลงพระปรมาภิไธยบนพระบรมฉายาลักษณ์ให้แก่ราษฎรด้วย

        ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวง ร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยแพทย์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมมาให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ตรวจสุขภาพและบริการด้านทันตกรรม รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จทุกคนเป็นอย่างดี ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎร ยังความปลาบปลื้มปีติแก่ราษฎรและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ ถึงพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อเวลา 21.18 น.

ข่าวประชาสัมพันธ์และกิจกรรมอื่นๆ