วันที่ 15 ธันวาคม 2563 เวลา 15.39 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ประจำปีการศึกษา 2559 – 2560 ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมบริการ วิชาเอกธุรกิจการบิน ซึ่งสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย
เวลา 20.08 น. สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานอเนกประสงค์ กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง ร่วมกับกรมแพทย์ทหารบก หน่วยแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพโรคทั่วไป บริการตรวจสุขภาพด้วยเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง ตรวจอัลตราซาวด์ และตรวจภาพจอประสาทตา รวมทั้งบริการด้านทันตกรรมด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่พระราชทาน การตรวจป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด – 19 ด้วยรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ในวันนี้มีผู้ป่วยมาตรวจรักษา จำนวนรวม 434 คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคตาแห้ง โรคต้อเนื้อ โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ และโรคภูมิแพ้ เป็นต้น ในโอกาสนี้ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้ป่วยที่ทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จำนวน 7 คน ที่ป่วยด้วยโรคผิวหนังแข็ง โรคลมชัก โรคผิวหนังอักเสบและติดเชื้อง่าย และโรคหัวใจ ทั้งยังทรงสอบถามถึงอาการป่วยและแนวทางในการรักษาด้วยความห่วงใย กับพระราชทานกล่องยาพระราชทานและเงินสำหรับเป็นค่าเดินทางไปทำการรักษา ยังความปลื้มปีติแก่ผู้ป่วยและครอบครัวและต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จากนั้น ทอดพระเนตรการสาธิตและผลิตภัณฑ์โครงการศิลปาชีพในพื้นที่ภาคใต้ โครงการศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ส่งเสริมให้ราษฎรมีอาชีพและมีรายได้ในการเลี้ยงดูครอบครัวอีกทางหนึ่ง และเพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดงานศิลปาชีพให้บังเกิดผลเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ราษฎร ได้แก่ การทอผ้าไหมยกทอง การปักผ้าลายไทย การสานกระเป๋าจากต้นกระจูด และการสาธิตการสาวไหมจากรังไหม และทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ของชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ อาทิ ผ้าไหมยกดอกลายเครือวัลย์ ผ้าบาติกและผ้าปาเต๊ะของกลุ่มปันหยาบาติก จังหวัดสตูล ผ้าปาเต๊ะปักเลื่อม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ้าบาติกและผ้าปาเต๊ะ จังหวัดกระบี่ ในการนี้ ทรงมีพระราชปฏิสันถารและทรงชื่นชมในผลงานของสมาชิกศิลปาชีพและราษฎร ทั้งยังพระราชทานพระราชานุญาตให้ราษฎรร่วมในการฉายพระรูปด้วย ยังความปลี้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคใต้ ระหว่างวันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2563 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อมาประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานแก่บัณฑิต ผู้ปกครอง ญาติบัณฑิต และประชาชนทั่วไป อย่างทั่วถึง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานแก่พสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้
ติดต่อเรา
สงวนลิขสิทธิ์โดย หน่วยราชการในพระองค์
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของส่วนราชการในพระองค์ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ส่วนราชการในพระองค์ ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ส่วนราชการในพระองค์ ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ ส่วนราชการในพระองค์ จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น จดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า ขนาดภาษาหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์