เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หน่วยราชการในพระองค์ ขอเผยแพร่พระราชกรณียกิจ “ทรงเป็นขวัญและกำลังใจ” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ทรงเป็นขวัญและกำลังใจ

บ้านดีต้องมีรั้ว          ป้องกันตัวจากโจรภัย

รั้วเรามีแรงใจ          ประมุขบ้านท่านดูแล

          เมื่อหลายสิบปีก่อน ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของไทย ประสบปัญหาภายในประเทศอย่างรุนแรงจนอาจกล่าวได้ว่าตกอยู่ในสภาพบ้านแตกสาแหรกขาด แผ่นดินลุกเป็นไฟไปแทบทั้งสิ้น มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ยั่งยืนยงอยู่ใด้ท่ามกลางไฟสงครามที่ลุกอยู่รอบ ๆ ประเทศ แม้กระนั้น ทหาร ตำรวจพลเรือน และอาสาสมัครผู้ป้องกันประเทศชาติ ก็ต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในการปะทะกับกองกำลังต่างชาติตามแนวชายแดน รวมทั้งกับผู้ก่อการร้ายภายในประเทศ

          สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงห่วงใยในปัญหาความมั่นคงของชาติและเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละเหล่านี้อย่างยิ่ง พระองค์โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยี่ยมเยียนพวกเขาเหล่านี้จนถึงฐานปฏิบัติการ ทรงนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปพระราชทาน และหลายครั้งที่ทรงนำพระเครื่องไปพระราชทานเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ ยามใดที่มีข่าวการปะทะและต้องสูญเสียบุคคลเหล่านี้ ก็ทรงเศร้าสลดพระราชหฤทัยและจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือแก่บุคคลนั้นรวมทั้งครอบครัวทันที

          จนถึงวันที่ ๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๑๘ อันเป็นวันคล้ายวันสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิรลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้น เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ ตลอดจนครอบครัวของผู้ที่พิการหรือเสียชีวิต นอกเหนือจากสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าเกิดความอบอุ่นใจว่ายังมีแนวหลังคอยห่วงใย เมื่อบาดเจ็บล้มตายก็จะไม่ถูกทอดทิ้งให้เผชิญชีวิตอยู่เพียงลำพัง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิรลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานมูลนิธิสายใจไทยฯ มาจนปัจจุบัน

          แต่แม้จะมีมูลนิธิสายใจไทยฯ มาช่วยรับภาระส่วนใหญ่ไปแล้วก็ตาม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังทรงพระกรุณาให้จัดอาหารจากห้องเครื่องในสวนจิตรลดาไปพระราชทานแก่ทหารที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอยู่เสมอ โดยพระราชทานทหารผู้บาดเจ็บจากการปะทะตามแนวชายแดนที่กำลังรักษาตัวอยู่ ทหารจากชายแดนที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บพิการอย่างต่อเนื่อง และทหารที่กำลังรอรับอวัยวะเทียม ซึ่งได้ทรงพระกรุณาพระราชทานมาตั้งแต่ครั้งที่ทหารไทยรุ่นจงอางศึกไปรบในสงครามเวียดนาม นับเป็นเวลาเกือบสามสิบปีมาแล้ว ทั้งยังมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดเจ้าหน้าที่จากกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปเยี่ยมดูอาการของทหารผู้บาดเจ็บทุกสัปดาห์ เมื่อฤดูร้อนมาถึง ยังโปรดให้จัดไอศกรีมไปพระราชทานเป็นพิเศษอีกด้วย

          นอกเหนือจากที่ทรงเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าแล้ว แนวหลังก็มีความสำคัญมิใช่น้อย ทรงสนับสนุนให้แนวหลังมีความรักชาติ ความสามัคคี และมีวินัย เช่น ทรงสนับสนุนกิจกรรมของลูกเสือแห่งชาติ และลูกเสือชาวบ้าน โดยสืบเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนานดังที่ได้เห็นประจักษ์กันอยู่จนทุกวันนี้

วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๑๗ เสด็จฯ ไปเยี่ยมค่ายมฤคทายวันของตำรวจตระเวนชายแดน

วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๘ เสด็จฯ แทนพระองค์ไปพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจาก ร.ร.นายร้อยตำรวจพระจุลจอมเกล้า ร.ร.นายเรือ ร.ร.นายเรืออากาศ ณ บริเวณสนามในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม

แล้วเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมทหารผู้บาดเจ็บ ณ รพ.พระมงกุฎเกล้า

วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๑๘ เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมทหารและตำรวจตระเวนชายแดน อำเภอเชียงคำ จังหวัดเชียงราย

พุทธศักราช ๒๕๒๐ ทรงเยี่ยมฐานปฏิบัติการบ้านผึ้ง

วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๒๐ เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมหน่วยทหารนาวิกโยธิน ค่ายกุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช

วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๒๑ เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมฐานปฏิบัติการ จังหวัดน่าน

เสด็จฯ ไปโรงพยาบาลสนาม เพื่อทรงเยี่ยมทหารและอาสาสมัครที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ

มีพระราชปฏิสันถารกับเจ้าหน้าที่ทหารที่บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด

วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๑๕ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จ ฯ ไปทรงเยี่ยมตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๔ และกองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย – พม่า บริเวณตอนเหนือของกิ่งอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ณ โรงพยาบาลหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 

ทรงเยี่ยมเยียนปลอบโยนตำรวจตระเวนชายแดนผู้บาดเจ็บ และพระราชทานเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต

ฉลองพระองค์เต็มยศนายทหารรักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ ๒๑ รักษาพระองค์ (ทรงดำรงพระยศพลเอก, พลเรือเอก, พลอากาศเอก ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๓๐)

ทรงเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ

ทรงเป็นขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความมั่นคงของชาติ