วันจันทร์ ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันจันทร์ ที่ ๑๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

วันนี้ เวลา ๑๗.๓๘ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรม
ราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเปิดอาคาร
ศูนย์รวมนม สวนจิตรลดา และทอดพระเนตรนิทรรศการเกี่ยวกับกระบวนการผลิตของศูนย์รวมนม
สวนจิตรลดา ณ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์รวมนม สวนจิตรลดา และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือโครงการ “ศูนย์รวมนม สวนจิตรลดา” จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการ และวีดิทัศน์เกี่ยวกับกระบวนการผลิตของศูนย์รวมนม สวนจิตรลดา เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์รวมนม สวนจิตรลดา ทรงพระสุหร่ายฉีด และทรงเจิมแผ่นจารึกป้ายชื่ออาคารศูนย์รวมนม สวนจิตรลดา ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรอุปกรณ์การผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ สมควรแก่เวลาจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ศูนย์รวมนม สวนจิตรลดา ซึ่งบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ในนามมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์
ได้ดำเนินโครงการจัดสร้างศูนย์รวมนม ฯ ขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย สำหรับทรงใช้ในโครงการ
ส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เนื่องจากอาคารหลังเดิมที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ และเครื่องจักรสายการผลิตบางอย่าง มีอายุการใช้งานมานานกว่า ๒๕ ปี ศูนย์รวมนม ฯ แห่งนี้ รองรับน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยง
โคนมในประเทศ และพัฒนาต่อยอดการผลิตระดับอุตสาหกรรม เน้นการเป็นโรงงานที่ไม่มุ่งการพาณิชย์
รวมทั้งเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตของโรงงานตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตามข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์
นมพาสเจอร์ไรส์ ด้วยเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย และเป็นระบบอัตโนมัติ
ศูนย์รวมนม สวนจิตรลดา มีพื้นที่รวม ๑,๗๕๐ ตารางเมตร เป็นอาคาร ๓ ชั้น โดยชั้นที่ ๑ประกอบด้วย เครื่องจักรเกี่ยวกับการผลิต ชั้นที่ ๒ ประกอบด้วย ระบบไฟฟ้า และตู้ควบคุม พร้อมห้องสำนักงาน ชั้นที่ ๓ ประกอบด้วย ระบบเครื่องจักรสาธารณูปโภค ถังเก็บน้ำ และปั๊มลม ทั้งนี้ มีกำลังการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ ๒,๐๐๐ ลิตร ต่อชั่วโมง สามารถผลิตนมได้ ๑๕,๐๐๐ ลิตร ต่อวัน ประกอบด้วย ขนาดบรรจุผลิตภัณฑ์ ๒๐๐ ๔๐๐ ๘๐๐ และ ๕,๐๐๐ ซีซี อายุผลิตภัณฑ์สามารถเก็บรักษาได้ไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน
เวลา ๑๘.๒๗ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่าง ๆ
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามลำดับดังนี้
– นางโดนิกา พอตตี (Ms. Donica Pottie) เอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลลา ในโอกาสพ้นจากตำแหน่งหน้าที่
ในโอกาสนี้ นายสก็อต สเลสเซอร์ (Mr. Scot Slessor) คู่สมรสเอกอัครราชทูต ฯ
ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
– คณะกรรมการมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎ
ราชกุมาร (ม.ท.ศ.) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนงานมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน ฯ คณะครูผู้ดูแลนักเรียนทุนการศึกษาพระราชทาน ฯ รุ่นที่ ๑๑ และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด นำ นักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษา
พระราชทาน ฯ รุ่นที่ ๑๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานทุนการศึกษา
/นักเรียน…..

– ๒ –

นักเรียนทุนการศึกษาพระราชทาน ฯ ดีเด่น รุ่นที่ ๘ และครูดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๒ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
รับพระราชทานโล่เชิดชูเกียรติ และนักเรียนทุนการศึกษาพระราชทาน ฯ รุ่นที่ ๒ รุ่นที่ ๓ และรุ่นที่ ๔ ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
จบการศึกษา
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท ความว่า รู้สึกเป็นที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง ที่โครงการทุนการศึกษามีผลการดำเนินงานและพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างเด่นชัด ก็ขอขอบใจคณะกรรมการมูลนิธิ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมมือกันปฏิบัติพัฒนางานของมูลนิธิอย่างเต็มกำลังมาโดยตลอด นักเรียนทุกคน เมื่อได้รับโอกาสทางการศึกษาสมดังที่มุ่งหมายแล้ว ก็น่าที่จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและพยายามพัฒนาตนเองในทุก ๆ ด้าน ให้มีความรู้ มีความสามารถที่ดี ตลอดจนมีแนวความคิด
ทัศนคติที่ถูกต้องดีงาม มีใจยึดมั่นในคุณธรรม สุจริต แล้วก็พยายามบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์และนึกถึงส่วนรวม สำหรับผู้ที่ศึกษาสำเร็จแล้ว ก็พึงนำความรู้ความสามารถ และคุณสมบัติที่มีอยู่ ไปเป็นพื้นฐานในการ
ประกอบอาชีพสร้างงาน สร้างตนเอง และหาประสบการณ์ ตลอดจนศึกษาในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับตนเองและส่วนรวม ก็จะทำให้เกิดความมั่นคงและเป็นมงคลกับตนเอง กับสังคม และกับชาติบ้านเมืองของเรา
ในวันเดียวกันนี้ เวลา ๑๖.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๑ ณ อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เป็นวันที่ ๕
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรี
สวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระโอวาท ความว่า เมื่อสี่วันที่ผ่านมา ได้กล่าวกับบัณฑิต
ในที่ประชุมนี้ว่า ความรู้และคุณธรรมความสุจริต เป็นเครื่องมือและเครื่องประคับประคองส่งเสริมการปฏิบัติงาน ให้สำเร็จผลที่ดีที่เจริญ ทั้งได้กล่าวถึงคุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง คือความกตัญญูกตเวที
ต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งจะกำกับเกื้อกูลบุคคลให้ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีที่ถูกต้อง
ในวันนี้ ใคร่จะกล่าวเพิ่มเติมแก่บัณฑิตทั้งหลายว่า ชาติบ้านเมืองนั้นมีความสำคัญยิ่งใหญ่
ด้วยเป็นที่เกิดที่อาศัย ที่แต่ละคนจะสามารถลงหลักปักฐาน ประกอบอาชีพการงานเลี้ยงตัวได้ บัณฑิตทุกคน
ผู้เป็นส่วนหนึ่งของชาติบ้านเมือง จึงควรตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าวนั้น แล้วถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่จะต้องช่วยกันปฏิบัติแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมือง ด้วยความรู้ความสามารถ คุณธรรมความสุจริต และความสมัครสมานสามัคคีกัน เมื่อชาติบ้านเมืองมีความร่มเย็นเป็นสุขและรุ่งเรืองก้าวหน้าแล้ว ประชาชนในชาติ รวมถึงบัณฑิตทุกคน ซึ่งต่างมีชาติเป็นที่พึ่งที่อาศัยร่วมกัน ก็จะสามารถสร้างตัวสร้างชีวิต สร้างความเจริญก้าวหน้าและความผาสุกมั่นคงให้บังเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน