คำกราบบังคมทูล(๑) ของ รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รายงานกิจการของมหาวิทยาลัย ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๒ (ภาคแรก) ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จพระราช ดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐ นับเป็นสิริมงคลยิ่งแก่กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นิสิต นักศึกษา และข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ในวโรกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระราชวโรกาสกราบบังคมทูลรายงานกิจการของมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ในรอบปีที่ผ่านมา ดังต่อไปนี้ ๑. ด้านการเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งมั่นสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาประเทศ และในรอบปีที่ผ่านมา ได้เน้นการผลักดัน ๘ กลุ่มงานวิจัยและ นวัตกรรมที่สนองนโยบายของรัฐบาล “ไทยแลนด์ ๔.๐” การสร้างเครือข่ายความ (๑) ถ้อยคำและอักขรวิธีตรงตามต้นฉบับ 115 ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างกลไกและสภาพแวดล้อมการเป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจนวัตกรรมรายใหม่ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ปัญหาให้กับประเทศ เช่น ร่วมกับสำนักปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในโครงการการพัฒนาธุรกิจ นวัตกรรมที่มีการเติบโตสูง (Innovative Startup) ร่วมกับสำนักงานเทคโนโลยี นิวเคลียร์แห่งชาติ ในการแก้ปัญหาผลผลิตที่เกินความต้องการ ร่วมกับภาคเอกชน ในการส่งเสริมสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมของคณาจารย์และนักวิจัย ทำให้ได้รับรางวัล จากเวทีต่าง ๆ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา ได้รับรางวัลระดับนานาชาติถึง ๑๘ รางวัล นอกจากนี้ ยังได้รับความสนับสนุนจาก รัฐบาลในการสร้างศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ศูนย์พัทยา เพื่อเป็นต้นแบบการแพทย์ แบบครบวงจรให้กับประเทศต่อไป ๒. ด้านการเป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมีนโยบายสร้างความเป็นนานาชาติ ด้วยการสร้างหลักสูตรนานาชาติ และการขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ ส่งผลให้มีการแลกเปลี่ยนอาจารย์ และนักศึกษาผ่านข้อตกลงความร่วมมือวิชาการในระดับนานาชาติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยใน ปัจจุบันมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีมหาวิทยาลัยคู่สัญญาในต่างประเทศถึง ๒๗๒ แห่ง และมีหลักสูตรนานาชาติ จำนวน ๙๕ หลักสูตร ทำให้ในปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัย ได้รับการจัดอันดับ จากสถาบัน QS ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับและประเมินมาตรฐาน ด้านการศึกษาในระดับสากล เป็นอันดับ ๓ ของประเทศไทย ๓. ด้านการเป็นมหาวิทยาลัย Active Learning มหาวิทยาลัยมีเป้าหมายที่จะสร้างนักศึกษาธรรมศาสตร์เป็นผู้นำในโลกยุคใหม่ แห่งศตวรรษที่ ๒๑ โดยใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบ Active Learning ที่ผู้เรียน ได้เรียนรู้ที่จะคิดวิเคราะห์และหาความรู้ในยุคดิจิตอล และลงมือปฏิบัติเป็น นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยยังได้เน้นทักษะใหม่อีก ๓ ประการ คือ ทักษะด้านการเป็น ผู้ประกอบการ ทักษะทางด้านภาษาที่ ๓ และทักษะด้านดิจิตอลเทคโนโลยี เพื่อ สนับสนุนและเปิดหลักสูตรสำหรับบุคคลภายนอก หลักสูตรออนไลนหลักสูตรสำหรับ ผู้สูงวัย เพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และสังคมแห่งสติปัญญาต่อไป ๔. ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน จากปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังรุนแรงมากขึ้น เรื่อย ๆ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้กำหนดให้‘เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน’ 116
ของสหประชาชาติเป็นเป้าหมายของมหาวิทยาลัย มาตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ ซึ่งในรอบปีที่ ผ่านมา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้มีการดำเนินการเรื่องที่สำคัญที่สุด ดังต่อไปนี้ (๑) โครงการเลิกการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง โดยมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จำนวน ๓๐ แห่งเข้าร่วม และสามารถลดปริมาณถุงพลาสติกหูหิ้วไปได้กว่า ๕๕ ล้านใบ สำหรับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากถุงพลาสติกแล้ว ยังลดจำนวนช้อน ส้อม หลอด และแก้วพลาสติกไปได้กว่า ๑,๕๐๐,๐๐๐ อัน (๒) ขณะนี้ศูนย์รังสิต ได้ติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บน หลังคาอาคารแล้ว ๘ เมกะวัตต์ ทำให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัย ที่ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นอันดับหนึ่งของทวีปเอเชีย และที่ศูนย์ลำปาง ติดตั้ง ทั้งหมด ๗๗๐ กิโลวัตต์ ซึ่งทำให้ศูนย์ลำปาง ใช้ไฟฟ้าตอนกลางวันจากแสงอาทิตย์ได ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นที่แรกของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย (๓) ประเทศไทยปล่อยขยะลงทะเลมากเป็นอันดับ ๖ ของโลก โดยขยะ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ มาจากแม่นํ้าสายต่าง ๆ ที่ไหลลงอ่าวไทย ซึ่งมีสาเหตุมาจากความมักง่าย และการทิ้งขยะไม่เป็นที่ เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้จัด กิจกรรม ‘พายเรือเพื่อเจ้าพระยา : เก็บขยะจากปากนํ้าโพถึงอ่าวไทย’ โดยจังหวัดที่แม่นํ้า เจ้าพระยาไหลผ่านมีทั้งหมด ๑๐ จังหวัด วันที่เริ่มพายคือวันที่ ๑๐ ธันวาคม และ เรือที่พายต่อเนื่องจนถึงอ่าวไทย มีทั้งหมด ๑๐ ลำ นับเป็นนิมิตหมายอันอัศจรรย์ ที่ตรงกับรัชสมัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวโรกาสที่จะได้มี พระราชพิธีบรมราชาภิเษก อันเป็นพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งที่พสกนิกรทั้งประเทศได้ เฝ้ารอ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงจะได้จัดกิจกรรมชักชวนประชาชนให้ร่วมกันอนุรักษ์ แม่นํ้าเจ้าพระยาและแม่นํ้าสายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป ภายใต้การดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมีนักศึกษา จำนวน ๓๕,๔๐๙ คน แยกเป็นปริญญาตรี ๓๐,๐๙๒ คน ประกาศนียบัตรบัณฑิต ๖๘ คน ปริญญาโท ๔,๖๔๒ คน และปริญญาเอก ๖๐๗ คน โดยเปิดสอนใน หลักสูตรต่าง ๆ ทั้งหมด ๒๘๖ หลักสูตร แยกเป็นปริญญาตรี ๑๒๗ หลักสูตร ประกาศนียบัตรบัณฑิต ๔ หลักสูตร ปริญญาโท ๑๑๖ หลักสูตร และปริญญาเอก ๓๙ หลักสูตร ทั้งนี้ แยกเป็นหลักสูตรภาษาไทย ๑๘๗ หลักสูตร และหลักสูตร ภาษาอังกฤษ ๙๙ หลักสูตร สำหรับในปีการศึกษา ๒๕๖๐ มีผู้สำเร็จการศึกษา ในระดับต่าง ๆ ดังนี้ 117
ปริญญาตรี ๗,๔๗๐ คน ประกาศนียบัตรบัณฑิต ๗๖ คน ปริญญาโท ๑,๗๕๖ คน ปริญญาเอก ๘๘ คน บัดนี้ได้เวลาอันเป็นอุดมมงคลฤกษ์แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทาน พระราโชวาท เพื่อความเป็นสวัสดิมงคล และเป็นหลักในการดำเนินงานของบัณฑิต นักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย และขอพระราชทานพระราชวโรกาส กราบบังคมทูลเชิญใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิตามรายงานที่นายกสภา มหาวิทยาลัยจักได้กราบบังคมทูล และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา และผู้ได้รับรางวัลเรียนดีทุนภูมิพล สำหรับผู้ได้รับรางวัลเรียนดีทุนภูมิพล ซึ่งสำเร็จ การศึกษาที่ได้คะแนนสูงสุดของคณะและสาขาวิชา จะอยู่ในอันดับต้นของแต่ละคณะ ทั้งนี้ ตามที่คณบดีแต่ละคณะ จักได้กราบบังคมทูลต่อไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม 118