พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี(๑) เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันอังคาร ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ท่านเอกอัครราชทูต ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานาธิบดีแห่ง สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีแต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย พร้อมด้วยอักษรสาส์นถอน เอกอัครราชทูตคนก่อน. ขอขอบใจท่านประธานาธิบดี ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้าและประเทศไทย ทั้งขอแสดงความปรารถนาดี เพื่อความสุขของท่านประธานาธิบดี และความเจริญ รุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวเยอรมนี. ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชม ที่ท่านได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่าง ประเทศไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ที่เจริญงอกงามมายาวนานกว่าศตวรรษครึ่ง รวมทั้งความร่วมมือในกิจการหลากหลายด้าน ทั้งระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และระดับโลก. ความสัมพันธ์และความร่วมมือดังกล่าว นับวันจะทวีเพิ่มพูนยิ่งขึ้น. ทั้งนี้เพราะประเทศของเราทั้งสองต่างมีมิตรไมตรีความเข้าใจอันดีและความเคารพ ยกย่องที่จริงใจต่อกันตลอดมา. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์และความร่วมมือ อันดีที่มีอยู่ระหว่างประเทศทั้งสอง กอปรกับความมุ่งมั่นของท่าน ที่จะส่งเสริม ความสัมพันธ์และความร่วมมือดังกล่าวให้ยิ่งกระชับแน่นแฟ้นและกว้างขวางออกไป จะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยสร้างเสริมให้ประเทศและประชาชนของเรา ตลอดจนประเทศ (๑) Mr. Georg Schmidt 204 และมนุษยชาติทั้งหลายในโลก มีความเจริญมั่นคง ความมั่งคั่งไพบูลย์ และความสงบ ผาสุกอันยั่งยืนตลอดไป. ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุน อย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือ ทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน. 205