พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา(๑) เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันพุธ ที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ท่านเอกอัครราชทูต ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับพระราชสาส์นตราตั้งจากสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ทรงแต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูต วิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย พร้อมด้วย พระราชสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน. ขอขอบพระทัยสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ในพระราชปรารถนาดี ที่มีต่อข้าพเจ้าและประชาชนชาวไทย ขอถวายพระพรให้ทรงพระเกษมสำราญ ทั้งขออำนวยพรให้ประเทศและประชาชนชาวกัมพูชามีความวัฒนาผาสุกยิ่งยืนนาน สืบไป. ประเทศไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา มีสัมพันธไมตรีระหว่างกันมาช้านาน. ทั้งนี้เนื่องจากประเทศของเราทั้งสองนอกจากเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง ซึ่งต่างมีศาสนา ขนบประเพณี ตลอดจนวัฒนธรรมละม้ายกันแล้ว ยังเป็นประเทศ สมาชิกประชาคมอาเซียน เพื่อร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม อีกด้วย. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า สัมพันธภาพที่มีอยู่ระหว่างประเทศทั้งสอง บนพื้นฐาน แห่งความเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิด และความเป็นประเทศสมาชิกองค์กรระดับ ภูมิภาคดังกล่าว จะนำไปสู่ความเข้าใจอันดียิ่งขึ้น และความร่วมมือในกิจการด้านต่างๆ ที่ขยายกว้างขวางออกไป อันจะทำให้ประเทศของเรา รวมทั้งนานาประเทศในภูมิภาคนี้ (๑) Mr. Ouk Sorphorn 266
และอื่น ๆ ของโลก มีความเข้มแข็งมั่นคง ความเจริญรุ่งเรือง และความสงบร่มเย็น ที่ยั่งยืนตลอดไป. ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุน อย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือ ทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน. 267