พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันเสาร์ ที่ 24 ตุลาคม 2563

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2563

พระราชดำรัส
ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล (๑)
เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันเสาร์ ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๓
——————

ท่านเอกอัครราชทูต

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล แต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลประจำประเทศไทย พร้อมด้วยอักษรสาส์นถอนเอกอัครราชทูต
คนก่อน. ขอขอบใจท่านประธานาธิบดี ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้า และประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งขอแสดงความปรารถนาดี เพื่อความสุขของท่านประธานาธิบดี และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวเนปาล.
ประเทศไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล มีความสัมพันธ์อันเก่าแก่ ก่อนแต่จะมีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อปี ๑๙๕๙. ตามหลักฐานปรากฏ ประเทศไทยมีประวัติความสัมพันธ์กับสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ในฐานะประเทศที่เป็นสถานที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสังเวชนียสถานที่เคารพบูชาอย่างสูงของพุทธศาสนิกชนชาวไทย. นอกจากนี้ ประชาชนในประเทศทั้งสองก็มีแนวทางดำเนินชีวิตละม้ายกันหลายอย่าง ทั้งทางศาสนา ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรม. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า สัมพันธภาพระหว่างประเทศทั้งสอง ที่ดำเนินมายาวนานอย่างแนบแน่น และนับวันจะเจริญงอกงาม จะเป็นพื้นฐานสำคัญทำให้เกิดความร่วมมือในทางสร้างสรรค์ที่กว้างขวางออกไปยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะนำความเจริญมั่นคง และความมั่งคั่งไพบูลย์มาสู่ประเทศของเราแล้ว ยังจะนำไปสู่ความเข้าใจอันดี และความสงบสุขอันยั่งยืนระหว่างประชาชาติทั้งหลายในภูมิภาคนี้และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกด้วย.
ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน.

(๑) Mr. Ganesh Prasad Dhakal