พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกี เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดี ที่ 4 พฤศจิกายน 2564

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2564

พระราชดำรัส
ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกี (๑)
เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันพฤหัสบดี ที่ 4 พฤศจิกายน 2564
——————

ท่านเอกอัครราชทูต

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐตุรกี แต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย พร้อมด้วยอักษรสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน.
ขอขอบใจท่านประธานาธิบดี ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้า และประเทศไทย ทั้งขอแสดงความปรารถนาดี เพื่อความสุขของท่านประธานาธิบดี และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวตุรกี.
น่ายินดียิ่ง ที่ท่านกล่าวว่า ประเทศไทยและสาธารณรัฐตุรกี มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเสมอมา. ปัจจุบัน โลกเผชิญปัญหายุ่งยากหลากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอันเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙. ประเทศทั้งหลายในโลก ควรได้เพิ่มพูนความสัมพันธ์ฉันมิตร ให้ใกล้ชิดสนิทสนมและกระชับแน่นแฟ้นมากขึ้น เพื่อร่วมมือช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในการแก้ไขปัญหาทั้งปวงที่เกิดขึ้น และสร้างสรรค์ความอยู่ดีมีสุขให้แก่ชาวโลก. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐตุรกีที่ดำเนินมาด้วยดี บนพื้นฐานแห่งความเป็นมิตร ความเคารพยกย่อง และความปรารถนาดี จะก่อให้เกิดความร่วมมือในกิจการด้านต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ประเทศและประชาชนของเรา ตลอดจนนานาประชาชาติและมวลมนุษยชาติ ประสบความเจริญมั่นคง ความมั่งคั่งไพบูลย์ และความร่มเย็นเป็นสุขอันยั่งยืนตลอดไป.
ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน.

(๑) Mrs. Serap Ersoy