พระราโชวาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ประจำปีการศึกษา 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค วันศุกร์ ที่ 18 พฤศจิกายน 2559

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2559

พระราโชวาท

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา
จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘
ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
วันศุกร์ ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
แทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ก่อนจะมีเหตุอันเป็นที่โทมนัสอาลัยของชาวไทยทุกถ้วนหน้า.
ขอแสดงความชื่นชมต่อบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ.

บัณฑิตทั้งหลายเมื่อสำเร็จการศึกษาออกไปทำงานคงจะได้พบว่าการทำงานนั้นต้องอาศัยการพิจารณาตัดสินใจอย่างมาก
แทบจะทุกขั้นตอน. เป็นต้นว่าจะเลือกสรรความรู้ข้อใดมาใช้ในการปฏิบัติงาน
จะจัดสรรงบประมาณและกำลังคนเท่าใด จะมีแนวทางหรือวิธีการปฏิบัติอย่างไร
ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ตัดสินใจได้ไม่ผิดพลาดทั้งสิ้น.
ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าจึงใคร่จะกล่าวถึงหลักในการพิจารณาตัดสินใจที่ใช้ได้ในทุกงานและทุกสถานการณ์
ก็คือความพอเหมาะพอดี.
บัณฑิตไม่ว่าจะทำงานใด อยู่ ณ ที่ใด หากคำนึงถึงความพอเหมาะพอดีทุกด้านเช่น
เลือกสรรความรู้ที่เกี่ยวข้องไปปรับใช้ให้พอเหมาะพอดีกับงานใช้ทุนรอนและกำลังคนให้พอเหมาะพอดีกับฐานะและความจำเป็น
ตลอดจนทำงานด้วยวิธีการที่พอเหมาะพอดีกับระเบียบปฏิบัติของงานและขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคม
ก็จะสามารถปฏิบัติงานให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพได้.
จึงขอให้ทุกคนทำความเข้าใจเรื่องความพอเหมาะพอดีให้ทราบชัดแล้วนำไปใช้เป็นหลักในการทำงาน
โดยระลึกไว้เสมอว่าการพิจารณา

611

ทุกเรื่องทุกอย่างโดยคำนึงถึงความพอเหมาะพอดีนั้น
เป็นเครื่องป้องกันการตัดสินใจผิดพลาดเสียหายได้อย่างดีที่สุด.

ขอพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร

ได้คุ้มครองรักษาบัณฑิตทุกคน และทุกท่านที่มาประชุมพร้อมกันในพิธีนี้ ให้มี
ความร่มเย็นเป็นสุขสวัสดีทุกเมื่อทั่วกัน.

612