พระราโชวาท สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนครพนม ประจำปีการศึกษา 2563 ณ มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม วันพุธ ที่ 15 ธันวาคม 2564

วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2564

พระราโชวาท
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนครพนม
ประจำปีการศึกษา 2563
ณ มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม
วันพุธ ที่ 15 ธันวาคม 2564
————————–

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยนครพนมประจำปีนี้. ขอแสดงความชื่นชมต่อบัณฑิตทุกคนที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ.
บัณฑิตเมื่อจบการศึกษา ชีวิตเปลี่ยนแปลงจากวัยเรียนเป็นวัยทำงาน. ในการประกอบอาชีพการงานและการดำเนินชีวิต นอกจากความเก่งกาจสามารถแล้ว ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะช่วยเกื้อกูลให้บัณฑิตประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน และการดำเนินชีวิตมั่นคงปลอดภัย ได้แก่ สติ คือความระลึกรู้ตัว ว่าตนเองกำลังทำอะไร ไม่เลอะเลือนเผลอไผล. เมื่อมีสติ ปัญญาที่จะพิจารณาว่าการกระทำนั้น ๆ เป็นคุณหรือโทษ ก็จะเกิดตามมา ที่เรียกว่า สัมปชัญญะ. มักกล่าวร่วมกันว่า สติสัมปชัญญะ. ผู้มีสติย่อมเป็นผู้มีความยั้งคิดพิจารณาสิ่งที่จะทำ คำที่จะพูด ว่าถูกต้องสมควรหรือไม่. เป็นประโยชน์หรือก่อให้เกิดผลเสียแก่ตน หรือเบียดเบียนผู้อื่นหรือไม่. ทั้งจะช่วยให้เป็นผู้ไม่ประมาท. สติจึงเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งไม่ให้คนเราคิดและทำสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ไม่เป็นประโยชน์. ขอให้บัณฑิตทั้งหลายสังวรระวังในเรื่องที่กล่าวมานี้ และควรฝึกตนให้เป็นผู้มีสติอยู่เสมอ ก็จะส่งผลเป็นความสุขความสำเร็จ เป็นประโยชน์เกื้อกูลทั้งแก่ตน ตลอดจนผู้อื่นที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกัน.
ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคน และผู้มาพร้อมกันในพิธีนี้ มีหน้าที่การงานและชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง สมดังความปรารถนาจงทุกประการ.