พระโอวาท (๑)
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา
จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘
ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันอังคาร ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๙
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
แทนพระองค์
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ก่อนจะมีเหตุอันเป็นเรื่องที่โศกเศร้าอาลัยของคนไทยทั้งมวล
ขอแสดงความชื่นชม
กับผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ
เมื่อวานนี้
ข้าพเจ้าได้พูดกับบัณฑิตในที่ประชุมนี้ว่า
การที่บัณฑิตจะสร้าง
ความสำเร็จความก้าวหน้ามั่นคงในกิจการงานได้นั้น
จะต้องอาศัยความรู้ที่ถูกต้อง
แน่นหนา
และแม่นยำชำนาญ
ทั้งความรู้ในด้านลึก
คือความรู้ในสาขาวิชาเฉพาะ
ที่บัณฑิตเล่าเรียนมา
และความรู้ในด้านกว้าง
คือความรู้ในสาขาอื่น
ๆ
รวมทั้ง
ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิชาการและข่าวสารข้อมูลต่าง
ๆ
วันนี้
ใคร่จะกล่าวเพิ่มเติมแก่ท่านทั้งหลายว่า
การที่คนเราจะสร้างสรรค์
ความสำเร็จความเจริญได้อย่างแท้จริงและยั่งยืนนั้น
นอกจากจะอาศัยความรู้ที่ลึกซึ้ง
กว้างขวางแล้ว
ยังต้องมีคุณธรรมความสุจริตเป็นเครื่องประกอบส่งเสริมด้วย
ทั้งนี้
เพราะคุณธรรมความสุจริตย่อมเป็นเครื่องป้องกันบุคคลให้ห่างไกลจากความชั่ว
และความเสื่อมเสียหายทั้งปวง
ทำให้แต่ละคนได้มีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถ
ในทางที่ดีที่เจริญเพียงอย่างเดียว
บัณฑิตผู้ปรารถนาความก้าวหน้าความมั่นคงในชีวิต
(๑)
เรียบเรียงขึ้นจากที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
538
จึงควรที่จะฝึกตนเองอย่างเต็มที่ ให้เป็นผู้มีจิตตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมความสุจริต และจะ
สามารถดำเนินชีวิตประกอบกิจการงานให้ประสบความสุขความเจริญอย่างแท้จริง
ตลอดไป
การฝึกจิตให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมนั้น
แม้ว่าจะเป็นการฝึกที่ยากลำบาก
เพราะว่า
ในทุก
ๆ
คนที่ยังต้องเกิดมาบนโลกแห่งความทุกข์นี้
ทุกคนก็มีทั้งความชั่วทั้งความดี
แต่หลวงตามหาบัว
ญาณสัมปันโน
ท่านได้สอนข้าพเจ้าว่า
ใช่
ในตัวเรามีทั้งความดี
และความชั่ว
แต่สิ่งที่ควรทำ
คือควรส่งเสริมและควรฝึกฝนในสิ่งที่เป็นความดีให้
มาก
ๆ
และให้เหยียบยํ่าความชั่วร้ายให้จมดินไป
ถ้าทุกคนทำได้อย่างนี้
ข้าพเจ้า
เชื่อว่าการที่จะเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ย่อมไม่ยาก
การที่คนเราจะต้องมีตัวอย่างสักคนหนึ่งหรือพระองค์หนึ่งที่กระทำความดี
ข้าพเจ้าขอให้ทุกคนมองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ข้าพเจ้าเป็นลูกท่านตั้งแต่เด็ก
จนวาระสุดท้ายของท่าน
ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นท่านทรงทำงานอะไรเพื่อตัวเองเลย
ทุกอย่าง
เพื่อสังคม
เพื่อประชาชน
และความเป็นอยู่ของท่าน
ก็เป็นทุกอย่างอย่างพอเพียง
ที่สุด
และท่านไม่เคยตำหนิคน
ถ้าคนไหนที่ท่านเห็นว่าเขาจะพลาด
และท่านเห็นว่า
ตักเตือนกันได้
เพราะเป็นคนสนิทสนม
ท่านก็จะทรงตักเตือน
แต่ถ้าตักเตือนแล้ว
เขายิ่งโกรธยิ่งแค้น
ยิ่งตะแบงซ้าย
ตะแบงขวา
เหมือนม้าที่เฮี้ยว
ๆ
ท่านก็จะ
ทรงหยุดและไม่ยุ่งด้วยเลยกับคนนั้น
ก็ขอให้ทุกคนนำตัวอย่างของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวไปเป็นตัวอย่างแก่ตนเอง และเป็นตัวอย่างสอนลูกหลานต่อไปในอนาคต
ในท้ายที่สุดนี้
ข้าพเจ้าขอพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา
ภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ทรงคุ้มครองรักษาบัณฑิตทุกคน
และทุกท่าน
ที่มาประชุมพร้อมกันในที่นี้ ให้มีความสุขความสวัสดีจงทั่วกัน
539