พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (๑) เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันศุกร์ ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ท่านเอกอัครราชทูต ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานาธิบดีแห่ง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย พร้อมด้วยอักษรสาส์นถอน เอกอัครราชทูตคนก่อน. ขอขอบใจท่านประธานาธิบดี ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้า พระราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชนชาวไทย ทั้งขอแสดงความปรารถนาดี เพื่อความสุขของ ท่านประธานาธิบดี และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวเวียดนาม. ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชม ที่ท่านได้กล่าวว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้ส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือ ทั้งระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค กับประเทศไทย ให้เจริญงอกงามเป็นลำดับมา นับแต่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี ๑๙๗๖. ประเทศไทยมีนโยบายเสมอมาที่จะเพิ่มพูนมิตรไมตรี และความร่วมมือ ในกิจการด้านต่าง ๆ กับนานาประเทศในโลกให้ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่ออยู่ร่วมกัน ด้วยความเข้าใจอันดี และช่วยกันสร้างสรรค์ความอยู่ดีมีสุขให้แก่มวลมนุษยชาติ. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า มิตรภาพและความร่วมมือในกิจการทุกๆ ด้านระหว่างประเทศทั้งสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือในกรอบของประชาคมอาเซียน ซึ่งเป็นองค์กร ความร่วมมือระหว่างประเทศระดับภูมิภาคทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (๑) Mr. Nguyen Hai Bang 385
จะช่วยสร้างเสริมสัมพันธไมตรีที่มีอยู่ให้กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งจะก่อให้เกิด ความเจริญรุ่งเรือง และความผาสุกร่มเย็นอันยั่งยืนแก่ประเทศของเรา รวมทั้งประเทศ ทั้งหลายในภูมิภาคนี้และภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกตลอดไป. ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุน อย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือ ทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน. 386