วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ.2561

วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ.2561

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันพุธ ที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

วันนี้ เวลา ๑๔.๐๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปวางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
เวลา ๐๘.๒๗ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานและบัตรอวยพรปีใหม่พระราชทาน ไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ โรงพยาบาลปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ซุ้มประตูเมืองปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี เสร็จแล้ว เดินทางไปมอบตะกร้าสิ่งของพระราชทานและบัตรอวยพร
ปีใหม่พระราชทานแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ณ โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จากนั้น เดินทางไปมอบถุงพระราชทานแก่เจ้าหน้าที่
ที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
ในวันเดียวกันนี้ เวลา ๑๓.๕๙ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๔๕ อำเภอระแงะ
จังหวัดนราธิวาส
ในโอกาสนี้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสความห่วงใย
และทรงให้กำลังใจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ ต่างปลื้มปีติและสำนึกใน
พระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
อนึ่ง เมื่อวันอังคาร ที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๒๕ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารสุขศาลาพระราชทานบ้านป่ากำ ณ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านป่ากำ ทรงเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านห้วยปูด โรงเรียนบ้านสว้า (ห้องเรียน บ้านป่ากำ) อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงเยี่ยมราษฎรบ้านป่ากำ ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ
จังหวัดน่าน ซึ่งเป็น ๑ ใน ๔ บ้านสาขาของหมู่บ้านขุนน้ำจอน ปัจจุบันมีราษฎรอาศัยอยู่ ๒๘ ครัวเรือน
ราษฎรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าลัวะ ที่รักษาเอกลักษณ์ของตนเองไว้เป็นอย่างดี เช่น การแต่งกาย
การเจาะหู และการสร้างบ้านที่ยังเป็นรูปทรงดั้งเดิม คือบ้านยกพื้นสูง หลังคามุ้งด้วยหญ้าคาคลุมจนเกือบพื้นดิน ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามความก้าวหน้าของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา
“แม่ฟ้าหลวง” บ้านป่ากำ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๕ เดิมชื่อศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนป่ากำ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานชื่อให้ใหม่ ปัจจุบันมีครูปฏิบัติงาน จำนวน ๒ คน

/ดำเนินกิจกรรมส่งเสริม …

– ๒ –

ดำเนินกิจกรรมส่งเสริม สนับสนุนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนในชุมชน
ตามความเหมาะสมกับช่วงวัย และความสนใจของแต่ละบุคคล เช่น การส่งเสริมการรู้หนังสือ การศึกษา
ขั้นพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต และการส่งเสริมการอ่าน เสร็จแล้ว
เสด็จพระราชดำเนินไปเปิดสุขศาลาพระราชทานบ้านป่ากำ ซึ่งเป็นสุขศาลา ๑ ใน ๓ แห่งของจังหวัดน่าน
ที่มีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการรักษาพยาบาลขั้นต้นและการสาธารณสุขแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ ก่อสร้างอาคาร พร้อมครุภัณฑ์ทางการแพทย์
เปิดให้บริการเมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๑ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปติดตามการดำเนินงานโรงเรียนบ้านสว้า ห้องเรียนสาขาบ้านป่ากำ ตั้งขึ้นเมื่อปีการศึกษา ๒๕๕๐ ภายใต้โครงการของโรงเรียนบ้านสว้า “โครงการศูนย์การเรียนรู้หนูบ้านไกล” เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กตกหล่นจากการเข้ามาเรียนที่โรงเรียนบ้านสว้า เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มีนักเรียน ๒๗ คน ครู ๒ คน โดยดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ให้นักเรียนมีความรู้ และทักษะพื้นฐานทางการเกษตร รวมทั้งขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชนดำเนินกิจกรรมการผลิตทางการเกษตรในโรงเรียนสู่การผลิตอาหารในครัวเรือน สามารถนำความรู้และทักษะในการเรียนรู้วิชาชีพที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต
การบัญชีมาใช้ในครอบครัว
เวลา ๑๔.๑๑ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน
ไปทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหาร และคณะอนุกรรมการโครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนา
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๖๑
ซึ่งมีวาระการประชุมต่าง ๆ เช่น ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ, แนวทางการดำเนินโครงการ ฯ ด้านอำนวยการ การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตลอดจนการพิจารณาร่างกรอบแนวทางการดำเนินงานโครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฯ ปีงบประมาณ ๒๕๖๑ – ๒๕๖๓ ในโอกาสนี้ ทรงติดตามการดำเนินงานของศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ซึ่งหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และส่วนท้องถิ่น
สนองพระราชดำริ มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ ในด้านการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัย และขยายผลสู่ประชาชน
และเกษตรกร มีพื้นที่ดำเนินงาน ๑,๘๑๒ ไร่ ปัจจุบัน เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ให้เหมาะสมกับพื้นที่สูง โดยทำเกษตรแบบผสมผสานคู่กับการฟื้นฟูสภาพป่า ปลูกไม้ยืนต้นคู่กับไม้
เศรษฐกิจหลักแทนการทำไร่เลื่อนลอย จากนั้น ทรงติดตามผลการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านการศึกษา แก่นักเรียนในอำเภอบ่อเกลือ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ สนับสนุนติดตั้งอุปกรณ์สื่อไอซีที เพื่อการศึกษาในทุกห้องเรียน รวมทั้งสนับสนุนหลักสูตรและสื่อดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้
ทรงเยี่ยมกลุ่มอาชีพนอกภาคการเกษตรที่มีการรวมกลุ่มอาชีพตามความถนัด อาทิ กลุ่มจักสานจากไม้ไผ่ การผลิตชาต้นอ่อนข้าวสาลี การทำกระดาษจากฟางข้าว การปลูกกาแฟบ้านห้วยโทน การมัดย้อมผ้าด้วยสีจากธรรมชาติ, การแปรรูปเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ใยบวบ ซึ่งจะส่งไปจำหน่ายภายใต้ตราสินค้า “ภูฟ้า”
สร้างรายได้ให้กับสมาชิกและกลุ่มเกษตรกร

/ในวันเดียวกันนั้น …

– ๓ –

ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๑๖.๑๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินไปศูนย์วัฒนธรรมภูฟ้า โครงการภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ทอดพระเนตรนิทรรศการการพัฒนาชุมชนมละบริ ด้านการศึกษา สำนักงานการศึกษา
นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยบ่อเกลือ เข้าไปตั้งศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยมละบริ เพื่อให้เด็ก
และเยาวชนมละบริได้รับการศึกษาเท่าเทียมกับคนทั่วไป เน้นจัดทำหลักสูตรพิเศษโดยเฉพาะ เพื่อรักษาวัฒนธรรมประเพณีของชนเผ่า, ด้านอาชีพ มีการปลูกข้าว พืชผัก เลี้ยงสัตว์ การจัดทำบัญชีครัวเรือน
ด้านการอนุรักษ์วิถีชีวิตและภูมิปัญญา มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมชนเผ่ามละบริ
เพื่อรวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต จัดแสดงการดำรงชีวิตให้คนทั่วไปเข้าไปเรียนรู้ ด้านสุขภาพอนามัย วางแผนเรื่องการดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุ ส่วนวัยแรงงานหญิงขาดทักษะการทำงานประณีต เช่น หัตถกรรม คหกรรม ด้านแรงงานชายขาดฝีมือ เช่น ก่อสร้าง ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า จากนั้น ทอดพระเนตรแปลงเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ซึ่งชนเผ่ามละบริปลูกไว้เพื่อบริโภค ได้แก่ พืชผัก ผลไม้ เห็ดในขอนไม้ เลี้ยงหมูพื้นเมือง ไก่ดำภูพาน เลี้ยงปลาในกระชัง ในโอกาสนี้ พระราชทานสิ่งของแก่ครูใหญ่และผู้แทนนักเรียนของศูนย์
การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” มละบริภูฟ้า ซึ่งมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อให้การศึกษาแก่เด็กและเยาวชนชนเผ่ามละบริ ปัจจุบันเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียนจำนวน ๒๕ คน ครู ๓ คน ซึ่งเป็นครูชนเผ่ามละบริ ๑ คน ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เน้นสอนให้นักเรียน
ฝึกอาชีพด้วยการทำผลิตภัณฑ์ชนเผ่ามละบริ เช่น กระเป๋าที่ถักจากเส้นเถาวัลย์ป่า ย้อมสีธรรมชาติเรียกว่า “ญอก” แก้วน้ำ แจกัน และไปป์สูบบุหรี่ที่ทำจากไม้ไผ่ มละบริเป็นกลุ่มชนที่เดิมมีวิถีชีวิตผ่านการเก็บ หา
ล่า คนไทยรู้จักกันในนาม “ตองเหลือง” ปัจจุบันอาศัยที่โครงการภูฟ้าพัฒนา ๑๗ ครัวเรือน รวม ๗๑ คน
มีอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ รับจ้าง และทำการเกษตร