วันพุธ ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2563

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2563

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันพุธ ที่ ๑๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓

วันนี้ เวลา ๑๕.๕๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหาร
ดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา
จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ – ๒๕๖๐ ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัย
ราชภัฏสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทาน
ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน ซึ่งสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายด้วย
เวลา ๐๙.๒๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ
๗ รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
พระราชทานพระราโชวาท ความว่า ในโอกาสที่บัณฑิตทุกคน จะได้นำวิชาความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา
ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพการงานและการดำเนินชีวิต จึงใคร่จะกล่าวถึงเรื่องการนำความรู้ไปใช้ ให้ทุกคนได้พิจารณา การจะใช้ความรู้ให้ได้ผลเป็นประโยชน์จริงนั้น แต่ละคนต้องรู้จริง คือมีความรู้ในหลักวิชาหรือทฤษฎีอย่างถูกต้องแท้จริง เป็นเบื้องต้นก่อน ต่อจากนั้น ต้องนำทฤษฎีดังกล่าวมาฝึกฝนปฏิบัติอยู่เสมอ
จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญชำนาญในการปฏิบัติขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็ต้องรู้จักคิดพิจารณา ว่าจะนำความรู้ใด ไปใช้ปฏิบัติอย่างไรให้ถูกต้อง คือไม่ให้ผิดพลาด ไม่ให้ทุจริต และให้เหมาะสม คือเหมาะแก่เวลา แก่สถานการณ์
แก่งานที่ทำ แก่บุคคล ตลอดจนเหตุผลแวดล้อมต่าง ๆ จึงขอให้บัณฑิตพิจารณาให้เข้าใจชัด ว่าการนำความรู้
ไปใช้นั้น ต้องประกอบพร้อมด้วยหลักวิชาอันหนักแน่น ความเชี่ยวชาญสามารถในการปฏิบัติ และวิจารณญาณอันถูกตรง จำเป็นที่แต่ละคนจะต้องหมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเอง ให้มีปัจจัยดังกล่าวนั้นอย่างครบถ้วน จะได้สามารถนำวิชาความรู้ไปใช้ ให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์
ในวันเดียวกันนี้ เวลา ๑๔.๓๒ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนครพนม ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ ณ อาคารศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
พระราชทานพระราโชวาท ความว่า บัณฑิตเมื่อสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแล้ว โดยปรกติก็ย่อมมีความ
มุ่งหวังตั้งใจ ที่จะได้ประกอบอาชีพการงานตามสาขาวิชาที่ได้อุตสาหะเล่าเรียนมา ความมุ่งหวังตั้งใจดังนั้น
แม้จะเป็นสิ่งที่ดีก็จริง แต่ถ้าปักใจยึดมั่นจนเกินไป ก็อาจกลายเป็นการปิดกั้นโอกาสในการทำงานของตน

/โดยใช่เหตุได้…
– ๒ –

โดยใช่เหตุได้ บัณฑิตทุกคนเมื่อมีโอกาสได้ทำงานใด ไม่ว่าจะตรงกับสาขาวิชาที่เล่าเรียนมาหรือไม่ก็ตาม
ก็ควรศึกษาเรียนรู้งานนั้นให้เข้าใจ แล้วตั้งใจพยายามนำความรู้ความคิดที่มีอยู่ มาปรับใช้กับงานให้เต็มกำลังความสามารถ ขอให้บัณฑิตเชื่อมั่นว่า คนเราถ้ามีความรู้จริง มีความสามารถจริง และมีความตั้งใจจริงแล้ว
ไม่ว่าจะทำงานใดก็ทำได้ ทั้งจะประสบความสำเร็จที่ดีได้อย่างแน่นอน
อนึ่ง เมื่อวันอังคาร ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลา ๒๑.๐๑ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ – ๒๕๖๐ ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๒๐.๐๘ น. สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน
โดยรถไฟฟ้าพระที่นั่ง ไปยังลานอเนกประสงค์หน้ากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน และทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์การสาธิต สินค้า
และผลิตภัณฑ์โครงการศิลปาชีพที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ กับทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
(OTOP) ของชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พันตรี ประสาร เหมือนพงษ์
ผู้อำนวยการกองแพทย์หลวง กราบบังคมทูลรายงานการตรวจรักษา และเบิกนายแพทย์มนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำคนไข้ที่ทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ที่ป่วยด้วยโรคผิวหนังแข็ง โรคลมชัก โรคผิวหนังอักเสบและติดเชื้อง่าย และโรคหัวใจ จำนวน ๗ คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานกล่องยาพระราชทานและเงินสำหรับเป็นค่าเดินทางไปทำการรักษา และมีพระราชปฏิสันถาร ทรงสอบถามอาการป่วยและแนวทางการรักษาด้วยความห่วงใย ยังความปลื้มปีติแก่คนไข้และครอบครัวและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ในวันนี้มีประชาชนมาตรวจรักษา จำนวนรวม ๔๓๔ คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคตาแห้ง โรคต้อเนื้อ โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ และโรคภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคใต้ในครั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
กองแพทย์หลวง ร่วมกับกรมแพทย์ทหารบก หน่วยแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัด
สุราษฎร์ธานี ออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพโรคทั่วไป ตรวจโรคเฉพาะทาง โดยเครื่องมือแพทย์ที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานให้ อาทิ ตรวจหัวใจ
ด้วยเครื่องตรวจหัวใจคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง ตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และตรวจภาพ
จอประสาทตา รวมทั้งหน่วยแพทย์มูลนิธิกาญจนบารมี ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม ออกหน่วยให้บริการ
ตรวจรักษาแก่ราษฎร ผู้ปกครอง และญาติของบัณฑิตให้ได้เข้าถึงการรักษา และรถตรวจเชื้อชีวนิรภัย
ตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ ออกหน่วยให้บริการตรวจเก็บตัวอย่างเป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองที่เข้าพื้นที่ได้สะดวกและรวดเร็ว ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรการสาธิต สินค้า และผลิตภัณฑ์โครงการศิลปาชีพที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ อาทิ การทอผ้าไหมยกทอง การปักผ้าลายไทย การสาน

/กระเป๋า …

– ๓ –

กระเป๋าจากต้นกระจูดของโครงการศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
การสาวไหมจากรังไหม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เสร็จแล้ว ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล
หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ของชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ อาทิ ผ้าไหมยกดอกลายเครือวัลย์ ผ้าบาติก
และผ้าปาเต๊ะของกลุ่มปันหยาบาติก จังหวัดสตูล ผ้าปาเต๊ะปักเลื่อม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ้าบาติก
และผ้าปาเต๊ะของจังหวัดกระบี่