วันที่ 1 เมษายน 2567 เวลา 15.42 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงประกอบพิธีสมโภช “พระพุทธไตรรัตนนายก” ครบ 700 ปี ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่สร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา เมื่อปีพุทธศักราช 1867 ได้มีการสถาปนาพระพุทธรูป “พระเจ้าพแนงเชิง” ซึ่งเป็นศิลปะอู่ทอง ปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิราบ หน้าตักกว้าง 14 เมตร องค์พระพุทธรูปสูงจากทับเกษตรถึงยอดพระรัศมี 19.30 เมตร ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ได้ทรงบูรณะองค์พระพุทธรูปใหม่ทั้งองค์ และพระราชทานนามว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก” วัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสมโภชพระพุทธไตรรัตนนายก ในช่วงเดือนเมษายนเป็นประจำทุกปี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชศรัทธาและทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนา โดยเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2518 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงนมัสการพระพุทธไตรรัตนนายก กับถวายปัจจัยสำหรับใช้บำรุงบูรณะวัด และถวายเวชภัณฑ์แด่พระภิกษุสงฆ์ และเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเชิญพระอุณาโลมขึ้นประดิษฐานที่พระนลาฏ พระพุทธไตรรัตนนายก สำหรับในปี 2567 นี้ พระพุทธไตรรัตนนายก มีอายุครบ 700 ปี และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยคณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันจัดพิธีสมโภชพระพุทธไตรรัตนนายก ครบ 700 ปี ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
ติดต่อเรา
สงวนลิขสิทธิ์โดย หน่วยราชการในพระองค์
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของส่วนราชการในพระองค์ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ส่วนราชการในพระองค์ ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ส่วนราชการในพระองค์ ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ ส่วนราชการในพระองค์ จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น จดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า ขนาดภาษาหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์