พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปรตุเกส เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันอังคาร ที่ 20 เมษายน 2564

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ.2564

พระราชดำรัส
ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปรตุเกส (๑)
เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันอังคาร ที่ 20 เมษายน 2564
——————

ท่านเอกอัครราชทูต

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐโปรตุเกส แต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐโปรตุเกสประจำประเทศไทย พร้อมด้วยอักษรสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน.
ขอขอบใจท่านประธานาธิบดี และประชาชนชาวโปรตุเกส ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้า พระราชวงศ์ ประเทศ และประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งขอแสดงความปรารถนาดี เพื่อความสุขของท่านประธานาธิบดี และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวโปรตุเกส.
ประเทศไทยและสาธารณรัฐโปรตุเกส มีความสัมพันธ์อันมีประวัติมากว่าห้าศตวรรษ ตั้งแต่ครั้งพระนครศรีอยุธยาเป็นราชธานีของประเทศไทย. ความสัมพันธ์ที่เก่าแก่ดังกล่าวนี้ นับเป็นรากฐานอันแน่นหนา ที่ค้ำชูให้ประเทศและประชาชนของเราทั้งสอง มีความผูกพันฉันมิตร ความเข้าอกเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง และความร่วมมือช่วยเหลือในกิจการด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดและกว้างขวาง ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม อันก่อเกิดประโยชน์ร่วมกันแก่การพัฒนาบ้านเมืองเป็นอันมาก. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า สัมพันธภาพระหว่างประเทศทั้งสอง
ที่สืบสานมายาวนานอย่างสนิทสนมราบรื่น และนับวันจะยิ่งเจริญงอกงาม จะสร้างเสริมมิตรภาพ และความร่วมมือในกิจการทุกด้าน ให้กระชับแน่นแฟ้น และขยายขอบเขตออกไปมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประเทศและประชาชนของเรา ตลอดจนประชาชาติและมนุษยชาติทั้งหลายในโลก
มีความเข้าใจอันดี ความเจริญมั่นคง และความสงบสุขที่ยั่งยืนตลอดไป.
ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน.

(๑) Mr. João Bernardo de Oliveira Martins Weinstein