พระโอวาท สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2558 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันจันทร์ ที่ 24 ตุลาคม 2559

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2559

พระโอวาท (๑)

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา
จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘
ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันจันทร์ ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๙

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
แทนพระองค์
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ก่อนจะมีเหตุอันเป็นที่เศร้าเสียใจของคนไทยทั้งมวล
ขอแสดงความชื่นชมกับ
ผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ

ท่านทั้งหลายได้อุตสาหะเล่าเรียนจนสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตแล้ว
ย่อมปรารถนาจะออกไปประกอบอาชีพการงาน
เพื่อสร้างความสำเร็จ
ความเจริญมั่นคง
ยิ่งขึ้นในภายหน้า
การจะทำให้ได้ดังกล่าว
แต่ละคนจะต้องปฏิบัติงานโดยอาศัย
ความรู้ที่ถูกต้อง
แน่นหนา
และแม่นยำชำนาญ
ทั้งในด้านลึกด้านกว้าง
ความรู้
ด้านลึก
คือความรู้ในสาขาวิชาเฉพาะที่บัณฑิตเล่าเรียนมา
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญ
ที่จะใช้ไปในการปฏิบัติงาน
ส่วนความรู้ด้านกว้าง
คือความรู้ในสาขาวิชาอื่น

รวมทั้ง
ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิชาการและข่าวสารข้อมูลต่าง

ซึ่งเป็นปัจจัย
สำคัญที่จะเกื้อหนุนให้บุคคลมีความคิดที่กว้างขวางและทันสมัย
สามารถปฏิบัติงาน
ให้เจริญก้าวหน้าเท่าทันกับวิทยาการและความเปลี่ยนแปลงของโลกได้
จึงขอให้บัณฑิต
ทุกคนหมั่นขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ
ให้มีความรู้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งใน

(๑)
เรียบเรียงขึ้นจากที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้

535

ด้านลึกและด้านกว้าง
แต่ละคนจะได้นำความรู้ที่มีอยู่ไปใช้ในการปฏิบัติงานสร้างสรรค์
ความสำเร็จและความรุ่งเรืองมั่นคงได้แท้จริงสมดังที่หวัง


ที่นี้
ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างผู้ที่ทำงานและประสบความสำเร็จ
คือ
พระบาท
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ทรงเป็นผู้ที่มีความรู้
ทั้งด้านกว้างและด้านลึกในวิชาเกษตรกรรม
และวิชาชลประทาน
ทำให้ทรงสามารถฟันฝ่า
อุปสรรคต่าง

ที่มีอยู่รอบ

ตัวพระองค์ท่าน
และจึงได้สามารถนำความเจริญมาสู่
เมืองไทย
ทุกท่านในที่นี้อาจจะเกิดช้าไป
ไม่ทันได้เห็นประเทศไทยเมื่อ
๔๐
กว่าปี
มาแล้ว
ในขณะนั้นประเทศไทยวุ่นวายมีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
มีการรบพุ่ง
ต่อสู้กันในประเทศชาติ
ซึ่งข้าพเจ้าได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทมาตั้งแต่ข้าพเจ้าอายุ
๑๔
ได้ออกไปตามหมู่บ้านต่าง

ให้ความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านทั้งด้านสุขภาพพลานามัย
และทางด้านการประกอบอาชีพ
และได้เห็นวิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง
ปฏิบัติตน
ทรงไม่เคยนึกถึงพระองค์เองเลย
ทรงนึกถึงแต่ประชาชน
ทุกอย่างก็
ประชาชนทั้งสิ้น
ทรัพย์สมบัติอะไรก็ตาม
ก็ไม่ใช่ที่ปรารถนาของพระองค์ท่าน
ความปรารถนาอย่างเดียวของพระองค์ท่านคืออยากให้คนไทยมีความสุข
มีความเจริญ
และก้าวหน้าเท่าเทียมกับอารยประเทศ

ถ้าบัณฑิตทั้งหลายดำเนินรอยตามพระยุคลบาท
ช่วยกันพัฒนาประเทศไทย
ให้เจริญยิ่ง

ขึ้นกว่านี้
โดยบัณฑิตทั้งหลายคงจะหาข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้ทำไว้
และอาจจะนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ให้เกิด
ประโยชน์ต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน

สุดท้ายนี้
ขอพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร
ได้คุ้มครองรักษาบัณฑิตทุกคน
และทุกท่านที่มาประชุมพร้อมกัน
ในพิธีนี้ ให้มีความผาสุกสวัสดีจงทั่วกัน

536