หน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ และหน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมเพิ่มพื้นที่สีเขียวแก่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 ริมคลองเปรมประชากร เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ชุมชนประชาร่วมใจ 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

          วันที่ 27 สิงหาคม 2566 เวลา 08.30 น. นายจรัลธาดา  กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ ร่วมกับข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนชุมชนประชาร่วมใจ 2 ริมคลองเปรมประชากร ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว บริเวณชุมชนประชาร่วมใจ 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 
          ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานลูกฟุตบอลแก่เยาวชน และมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ ได้มอบสนามเปตอง ที่ได้รับการสนับสนุนจัดสร้างจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานต่าง ๆ ได้สนับสนุนมอบอุปกรณ์กีฬา ให้แก่ประชาชนในชุมชนประชาร่วมใจ 1 และ 2 อีกด้วย
          กิจกรรมมอบต้นไม้แก่ชุมชนประชาร่วมใจ 2 ครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่หน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ พร้อมด้วยหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กรมป่าไม้ กรุงเทพมหานคร เครือเอสซีจี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันอาศรมศิลป์  และภาคเอกชน ตลอดจนจิตอาสาพระราชทาน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ร่วมใจกันจัดขึ้น เพื่อดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 นับเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ และเป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอด แนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้อย่างดียิ่ง

          โดยองคมนตรี ผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ในกระถาง เพื่อมอบแก่ประชาชน ประกอบด้วย พันธุ์ไม้กินได้ อาทิ มะขามป้อม สะเดา ขี้เหล็ก แคนา พืชผักสวนครัว อาทิ พริก โหระพา สะระแหน่ ตะไคร้ จากนั้น จิตอาสาพระราชทานได้ช่วยขนย้ายกระถางต้นไม้ เพื่อนำกลับไปตั้งที่บริเวณหน้าบ้านของประชาชนแต่ละครัวเรือน นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ส่วนกลางของชุมชน ที่ผ่านกระบวนการออกแบบอย่างมีส่วนร่วมของคนทุกช่วงวัย ให้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เป็นลานกิจกรรม ลานกีฬา ลานออกกำลังกาย ที่มีเครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีแปลงสวนผักชุมชน เพิ่มพื้นที่สีเขียวของไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ยืนต้นที่ให้ร่มเงาให้ความร่มรื่นในพื้นที่ เป็นการสร้างสุขภาวะที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัยในชุมชน

          กิจกรรมการมอบต้นไม้แก่ประชาชนผู้อยู่อาศัยในชุมชนประชาร่วมใจ 2 ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นต่อเนื่องจากครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 เพื่อนำร่องการพัฒนาพื้นที่ชุมชนริมคลองเปรมประชากร ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้ความสำคัญในการพัฒนาคูคลองในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงคลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นลำคลองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพึ่งพาตนเอง และการดำรงชีวิตอย่างพออยู่พอกิน มาเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการปลูกพืชผักสวนครัวที่แปลงผักหน้าบ้าน เพื่อนำมาใช้ในการประกอบอาหาร เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายครัวเรือนอีกทางหนึ่ง รวมถึงแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์ป่าไม้ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวกลางใจเมือง ตามพระราโชบาย “สร้างป่าเล็ก ในเมืองใหญ่” โดยจัดสร้างสวนป่า สวนสาธารณะ สวนดอกไม้นานาพันธุ์
เพื่อเป็นสถานที่สร้างสุขภาวะ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นปอดขนาดใหญ่สำหรับหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อีกทั้งเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกแก่ประชาชนและเยาวชนให้ร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนองพระราชปณิธาน เพื่อดำรงไว้ซึ่งความสุขของอาณาราษฎรสืบไป
          ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมมอบต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชนประชาร่วมใจทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นโครงการนำร่องที่หน่วยราชการในพระองค์จะประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคลองเปรมประชากรเป็นที่ตั้งของชุมชนริมคลองอีกเป็นจำนวนมาก และมีความยาวไปถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมกว่า 50 กิโลเมตร เพื่อเป็นการเน้นย้ำความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาชน และจะเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การให้ความร่วมมือในการพัฒนาจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทางที่ดีขึ้น รวมทั้งประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

News and ActivitiesOther